สรุปสถานการณ์
Flooding in the North and the Northeast in the early October 2023

ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2566 มีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงวันที่ 4-9 ตุลาคม 2566 ร่องมรสุมได้พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นได้เลื่อนลงไปพาดผ่านบริเวณ

ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และ

ทะเลจีนใต้ ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งฝนทำให้มีฝนตกมากในหลายพื้นที่

In early October 2023, the monsoon trough continuously lay across Thailand. During 4-9 October 2023, it lay across the North and the Northeast. After that, it moved down to lie across the lower Central, the

East, and the upper South due to the influence of the moderate high-pressure area from China that extended its ridge to cover the Northeast, the North, and the South China Sea. During the same period,

the southwest monsoon prevailed over the Andaman Sea, the South, and the Gulf of Thailand continuously. This caused a lot of rain in several areas.

ภาพแผนที่อากาศแสดงร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม 2566
6/10/2023
7/10/2023
8/10/2023


โดยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มมีฝนตกหนักมากกระจายตัวในหลายพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2566 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2566 หลังจากนั้นฝนได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคง

มีฝนตกมากเกิดขึ้นในบางพื้นที่ ทั้งนี้ จังหวัดที่มีฝนตกหนักมาก ตรวจวัดปริมาณฝนได้เกิน 90 มิลลิเมตรต่อวัน ประกอบด้วย ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ลำปาง เชียงราย

น่าน เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ สกลนคร ขอนแก่น มหาสารคาม เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครราชสีมา และบุรีรัมย์

In the northern and northeastern areas, very heavy rain began spreading in many areas from 6 to 9 October 2023. After that, it continuously decreased, but there was still heavy rain in some areas.

Provinces facing very heavy rain with more than 90 millimeters per day consisted of 8 provinces in the North, namely Phichit, Phrae, Uttaradit, Phetchabun, Lampang, Chiangrai, Nan, and Chiangmai; and 9

provinces in the Northeast, namely Bueng Kan, Sakon Nakhon, Khon Kaen, Maha Sarakham, Loei, Nongbua Lamphu, Udon Thani, Nakhon Ratchasima, and Buriram.

ภาพแผนที่สถานีตรวจวัดปริมาณฝนแสดงปริมาณฝนรายวันในช่วงวันที่ 6-9 ตุลาคม 2566
6/10/2023
7/10/2023
8/10/2023
9/10/2023


ทั้งนี้ ฝนที่ตกหนักส่งผลทำให้แม่น้ำลำคลองต่าง ๆ เกิดน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ โดยบางพื้นที่เกิดน้ำท่วมเป็นระยะเวลาสั้น ๆ และบางพื้นที่เกิดน้ำท่วมเป็นระยะเวลานานหลายวัน โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดน้ำท่วมที่แม่น้ำสงครามและ

ลำน้ำอูนบริเวณจังหวัดสกลนคร ลำน้ำก่ำบริเวณจังหวัดนครพนม ลำน้ำปาวบริเวณจังหวัดกาฬสินธุ์ ห้วยหลวงบริเวณจังหวัดอุดรธานี แม่น้ำเลยบริเวณจังหวัดเลย ห้วยโมงบริเวณจังหวัดหนองบัวลำภู แม่น้ำชีบริเวณจังหวัดขอนแก่นและอุบลราชธานี

ลำเซบายบริเวณจังหวัดยโสธร ลำปะเทียบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนภาคเหนือเกิดน้ำท่วมที่แม่น้ำปิงบริเวณจังหวัดตาก แม่น้ำยม แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำวังทองบริเวณจังหวัดพิษณุโลก แม่น้ำป่าสักบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์

The heavy rain caused several rivers and canals to overflow their banks and flooded many areas with both short-period flooding and long-period flooding. The Northeast had flooding at Song Kram River and Num Un River in Sakhon Nakhon Province, Nam Kam River in

Nakhon Phanom Province, Pao River in Kalasin Province, Huai Luang River in Undon Thani Province, Loei River in Loei Province, Huai Mong River in Nongbua Lamphu Province, Chi River in Khon Kaen Province and Ubon Ratchathani Province, Lam Sebai River in Yasothon Province, and

Lam Patia River in Burirum Province. The North had flooding at Ping River in Tak Province, Yom River, Kwaenoi River, and Wangthong River in Phitsanulok Province; and Pasak River in Phetchabun Province.

ภาพถ่ายพื้นที่ถูกน้ำท่วมบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566


นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักยังส่งผลทำให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยช่วงวันที่ 5-12 ตุลาคม 2566 เขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนรวมกันทั้งสิ้น 1,390 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีการระบายออกไปเพียง

119 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนรวมกันทั้งสิ้น 1,196 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีการระบายออกไปเพียง 329 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น โดย ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ปริมาณน้ำกักเก็บในแต่ละ

เขื่อนของทั้งสองภาคอยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลางถึงน้ำมาก และเกิดน้ำล้นเขื่อนขึ้น 3 แห่ง ที่เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา และเขื่อนแม่งัด จ.เชียงใหม่ โดยไม่มีเขื่อนใดที่มีน้ำกักเก็บอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยและน้ำน้อยวิกฤต

Furthermore, the heavy rain also increased the amount of water flowing into large dams in the area. During 5-12 October 2023, dams in the North had a total inflow water of 1,390 million cubic meters (mcm) with only 119 mcm of water released.

Dams in the Northeast had a total inflow water of 1,196 mcm, but only 329 mcm were released. On 12 October 2023, the amount of water stored in each dam in both regions was at moderate to high levels. Three dams overflowed, namely

Kew Koma Dam in Lampang Province, Lamtakong Dam in Nakhon Ratchasima Province, and Mae Ngad Dam in Chiangmai Province, without dams having water storage at low and critically low levels.

ปริมาณน้ำกักเก็บของเขื่อนขนาดใหญ่ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566