อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” เริ่มส่งผลทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายและพะเยาตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่พายุเคลื่อนขึ้นฝั่งที่บริเวณตอนบนของประเทศเวียดนามและสลายตัวไปในวันที่ 8 กันยายน 2567 ซึ่งถึงแม้พายุจะสลายตัวไปแล้ว แต่เนื่องจากได้เกิดร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงกลางเดือน ประกอบกับในช่วงเวลาเดียวกันมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และ

อ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้บริเวณภาคเหนือยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่องออกไปอีกถึงแม้พายุจะสลายตัวไปแล้ว โดยจังหวัดในภาคเหนือที่มีฝนตกหนักมาก (ปริมาณฝนเกิน 90 มิลลิเมตรต่อวัน) ประกอบด้วย เชียงราย ตาก เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน ลำปาง พะเยา ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ สำหรับจังหวัดเชียงรายมีฝนตกหนัก (ปริมาณฝนอยู่ในช่วง 35-90 มิลลิเมตรต่อวัน) เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อเนื่องเกือบทุกวันทั้งแต่ต้นเดือนจนถึงกลางเดือน และมีฝนตกหนักมากเกิดขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ใน

ช่วงวันที่ 9-11 กันยายน 2567 ในอำเภอ เทิง แม่ฟ้าหลวง เชียงแสน เชียงของ แม่สาย เวียงชัย แม่จัน เมืองเชียงราย และดอยหลวง โดยมีปริมาณฝนตกรายวันมากที่สุดถึง 225 มิลลิเมตร ที่ ต.โป่งผา อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ส่วนบริเวณที่มีปริมาณฝนสะสม 7 วันสูงสุด ช่วงวันที่ 7-13 กันยายน 2567 คือที่ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ที่มีปริมาณฝนสะสม 534 มิลลิเมตร รายละเอียดเพิ่มเติมตามแผนที่และตารางด้านล่าง

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ แผนภาพการกระจายตัวของปริมาณฝนสะสมรายวันแสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” ส่งผลให้เริ่มมีฝนตกเพิ่มขึ้นบริเวณจังหวัดเชียงราย

พะเยา น่าน ตั้งวันที่ 7 กันยายน 2567 ต่อเนื่องถึงวันที่ 8 กันยายน 2567 และปริมาณฝนตกหนักเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดรวมทั้งขยายวงกว้างออกไปยังจังหวัดอื่น ๆ

ในช่วงวันที่ 9-10 กันยายน 2567 หลังจากนั้นปริมาณฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักในบางพื้นที่