ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2567 อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย อีกทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ประประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอิทธิพลจากแนวลมพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบน

ในช่วงปลายเดือน ที่ทำให้บริเวณภาคตะวันออกมีฝนหนักถึงหนักมาก และทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดจันทบุรีและตราด ที่ในช่วงวันที่ 26-30 กรกฎาคม 2567 มีฝนตกหนักมาก (ปริมาณฝนมากกว่า 90 มิลลิเมตรต่อวัน) เกิดขึ้นในหลายอำเภอ ได้แก่ จังหวัดตราด บริเวณ อ.บ่อไร่ อ.คลองใหญ่ อ.เขาสมิง อ.เกาะช้าง อ.เมืองตราด จังหวัดจันทบุรี บริเวณ อ.ขลุง อ.เมืองจันทบุรี อ.เขาคิชฌกูฏ อ.มะขาม อ.แหลมสิงห์ อ.ท่าใหม่ โดยมีปริมาณฝนสะสมรายวันสูงสุดที่สถานีบ้าน

หนองบอน ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด ปริมาณฝน 338 มิลลิเมตร รองลงมาคือที่สถานี อบต.สะตอ ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด ปริมาณฝน 281 มิลลิเมตร สำหรับปริมาณฝนสะสม 7 วันสูงสุดในช่วงวันที่ 25-31 กรกฎาคม 2567 สถานีบ้านหนองบอน ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ มีฝนตกมากที่สุดถึง 647 มิลลิเมตร รองลงมาคือที่สถานีบ้านตาบาด ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด ปริมาณฝน 597 มิลลิเมตร รายละเอียดเพิ่มเติมดังรูปและตารางด้านล่าง

จากแผนภาพแสดงการกระจายตัวของปริมาณฝนสะสมรายวันจะเห็นได้ว่าอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย อีกทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเล

อันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ประประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอิทธิพลจากแนวลมพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบนในช่วงปลายเดือน ที่ทำให้บริเวณจังหวัด

ตราดและจันทบุรีมีฝนหนักถึงหนักมาก โดยฝนเริ่มตกหนักตั้งแต่วันที่ 25 กรกกฎาคม 2567 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 โดยเฉพาะในวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ที่มีฝนตกหนักมากเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง