จากเหตุการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนจนถึงช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 ส่งผลทำให้เขื่อนขนาดใหญ่มีน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มมากขึ้น โดยช่วงวันที่ 15 กันยายน ถึง 5 ตุลาคม 2567 เขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือมีน้ำไหลลงเขื่อนรวมกันมากถึง 4,622 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีน้ำไหลลงเขื่อนรวมกัน 2,722 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยในช่วงเวลาดังกล่าว เขื่อนที่มีน้ำไหลลงเขื่อนเกิน 100 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล
จ.ตาก เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก เขื่อนน้ำอูน เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี เขื่อนแม่งัด จ.เชียงใหม่ โดยเขื่อนภูมิพล มีน้ำไหลลงเขื่อนมากที่สุด 2,149 ล้านลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือเขื่อนสิริกิติ์ 1,342 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนอุบลรัตน์ 1,264 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้จากรายงาน สถานการณ์น้ำกักเก็บในเขื่อนเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 พบว่าเกิดน้ำล้นเขื่อนที่เขื่อน
แม่งัด ปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 112.61% โดยน้ำเริ่มล้นเขื่อนตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 รวมทั้งเป็นวันที่มีน้ำไหลลงเขื่อนรายวันสูงสุดถึง 22.3 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเที่ยบกับข้อมูลย้อนหลังในรอบ 10 ปี และมีเขื่อนที่มีน้ำกักเก็บอยู่ในเกณฑ์น้ำมากถึง 13 แห่ง ได้แก่ เขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนประแสร์ เขื่อนน้ำอูน เขื่อนลำปาว เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนแม่มอก เขื่อนนฤบดินทรจินดา เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนกิ่วลม เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนอุบลรัตน์