ปี 2562 ประเทศไทยมีปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศประมาณ 1,211 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 256 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าปกติประมาณ 17% พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศมีฝนตกน้อยกว่าปกติ มีเพียงบางพื้นที่ที่มีฝนตกมากกว่าปกติ โดยฝนที่ตกมากกว่า
ปกติกระจุกตัวอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวได้รับอิทธิพลจากพายุโพดุลและพายุ
คาจิกิ ที่ส่งผลกระทบในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน นอกจากนี้ยังมีฝนตกมากในบางพื้นที่ของจังหวัดน่าน ลำปาง ตาก นครนายก ตราด จันทบุรี และยะลา
เมื่อวิเคราะห์ปริมาณฝนเป็นรายภาค พบว่าปริมาณฝนต่ำกว่าปกติในทุกภาค โดยเฉพาะภาคกลางที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติมากที่สุดถึง 26% รองลงมาคือภาคเหนือที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติ 20% นอกจากนี้เมื่อพิจารณาจากแผนที่ฝนจะเห็นได้ว่าภาคกลางและภาค
ใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกน้อยกว่าปกติเกือบทุกพื้นที่ของภาค และแม้ว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบจากพายุจากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่เป็นเพียงพื้นที่ส่วนน้อยของภาค โดยภาพรวมแล้วปริมาณฝนยังคงต่ำกว่าปกติถึง 13% และหาก
วิเคราะห์ปริมาณฝนเป็นรายจังหวัดจะพบว่ามีเพียง จังหวัดที่มีปริมาณฝนตกมากกว่าปกติ ประกอบด้วย จังหวัดตราด ยโสธร อำนาจเจริญ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร
ภาค |
ฝนปกติ |
ฝนปี 2562 |
ปริมาณฝนที่ต่างจากปกติ |
|
มิลลิเมตร |
เปอร์เซ็นต์ |
|||
ภาคเหนือ | 1,232 |
983 |
-249 |
-20 |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | 1,384 |
1,207 |
-177 |
-13 |
ภาคกลาง | 1,218 |
901 |
-317 |
-26 |
ภาคตะวันออก | 1,848 |
1,572 |
-275 |
-15 |
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก | 1,972 |
1,614 |
-358 |
-18 |
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก | 2,535 |
2,142 |
-393 |
-15 |
ทั้งประเทศ | 1,467 |
1,211 |
-256 |
-17 |
รหัส |
จังหวัด |
ต่างจากปกติ (%) |
รหัส |
จังหวัด |
ต่างจากปกติ (%) |
|
1 |
กรุงเทพมหานคร | -35 |
40 |
ลำปาง | -16 |
|
2 |
สมุทรปราการ | -34 |
41 |
อุตรดิตถ์ | -28 |
|
3 |
นนทบุรี | -32 |
42 |
แพร่ | -15 |
|
4 |
ปทุมธานี | -36 |
43 |
น่าน | -6 |
|
5 |
พระนครศรีอยุธยา | -40 |
44 |
พะเยา | -24 |
|
6 |
อ่างทอง | -38 |
45 |
เชียงราย | -39 |
|
7 |
ลพบุรี | -21 |
46 |
แม่ฮ่องสอน | -16 |
|
8 |
สิงห์บุรี | -30 |
47 |
นครสวรรค์ | -19 |
|
9 |
ชัยนาท | -27 |
48 |
อุทัยธานี | -24 |
|
10 |
สระบุรี | -29 |
49 |
กำแพงเพชร | -20 |
|
11 |
ชลบุรี | -26 |
50 |
ตาก | -12 |
|
12 |
ระยอง | -21 |
51 |
สุโขทัย | -30 |
|
13 |
จันทบุรี | -7 |
52 |
พิษณุโลก | -32 |
|
14 |
ตราด | 4 |
53 |
พิจิตร | -28 |
|
15 |
ฉะเชิงเทรา | -31 |
54 |
เพชรบูรณ์ | -19 |
|
16 |
ปราจีนบุรี | -19 |
55 |
ราชบุรี | -22 |
|
17 |
นครนายก | -21 |
56 |
กาญจนบุรี | -24 |
|
18 |
สระแก้ว | -17 |
57 |
สุพรรณบุรี | -36 |
|
19 |
นครราชสีมา | -27 |
58 |
นครปฐม | -32 |
|
20 |
บุรีรัมย์ | -19 |
59 |
สมุทรสาคร | -32 |
|
21 |
สุรินทร์ | -12 |
60 |
สมุทรสงคราม | -27 |
|
22 |
ศรีสะเกษ | -11 |
61 |
เพชรบุรี | -22 |
|
23 |
อุบลราชธานี | -1 |
62 |
ประจวบคีรีขันธ์ | -18 |
|
24 |
ยโสธร | 1 |
63 |
นครศรีธรรมราช | -22 |
|
25 |
ชัยภูมิ | -24 |
64 |
กระบี่ | -30 |
|
26 |
หนองบัวลำภู | -23 |
65 |
พังงา | -12 |
|
27 |
อำนาจเจริญ | 2 |
66 |
ภูเก็ต | -13 |
|
28 |
ขอนแก่น | -15 |
67 |
สุราษฎร์ธานี | -23 |
|
29 |
อุดรธานี | -14 |
68 |
ระนอง | -9 |
|
30 |
เลย | -37 |
69 |
ชุมพร | -10 |
|
31 |
หนองคาย | -11 |
70 |
สงขลา | -21 |
|
32 |
มหาสารคาม | 2 |
71 |
สตูล | -17 |
|
33 |
ร้อยเอ็ด | 5 |
72 |
ตรัง | -9 |
|
34 |
กาฬสินธุ์ | -5 |
73 |
พัทลุง | -16 |
|
35 |
สกลนคร | -15 |
74 |
ปัตตานี | -13 |
|
36 |
นครพนม | -7 |
75 |
ยะลา | -9 |
|
37 |
มุกดาหาร | 0 |
76 |
นราธิวาส | -15 |
|
38 |
เชียงใหม่ | -16 |
77 |
บึงกาฬ | -9 |
|
39 |
ลำพูน | -15 |
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณฝนของปี 2562 กับปริมาณฝนปีอื่นย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่า ปี 2562 มีปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศน้อยที่สุด และใกล้เคียงกับปี 2558 ที่ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง โดยปริมาณฝนมากกว่าเพียง
40 มิลลิเมตร หรือประมาณ 3% อีกทั้งการกระจายตัวของฝนมีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยมีฝนมากบริเวณภาคใต้ ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดตราด จันทบุรี ส่วนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้
ตอนบน และด้านตะวันตกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะพื้นที่ตอนกลางของประเทศที่มีฝนตกน้อยต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 ลักษณะใกล้เคียงกับปี 2558 ที่บริเวณตอนกลางของประเทศมีฝนตกน้อยต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557