แผนภาพการกระจายตัวของฝนที่ตกผิดไปจากปกติ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเกิดสถานการณ์ฝนตกน้อยกว่าปกติต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงฤดูฝนปี 2561 (พฤษภาคม-ตุลาคม 2561) ซึ่งมีฝนตกเฉลี่ยน้อยกว่าปกติประมาณ 62 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าปกติประมาณ 5% โดยเกิดฝนตกน้อยกว่าปกติมากเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ ครอบคลุมทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก รวมถึงในบางพื้นที่ของภาคใต้ แต่ทั้งนี้บริเวณชายขอบของประเทศกลับมีฝนตกมากกว่าปกติค่อนข้างมากในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณตอนบนของภาคเหนือและด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาในช่วงฤดูแล้งปี 2561/2562 (พฤศจิกายน 2561-เมษายน 2562) ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนตกน้อยเป็น
ปกติ แต่กลับพบว่าฝนที่ตกน้อยอยู่แล้วกลับน้อยลงไปอีก ครอบคลุมพื้นที่ตอนบนของประเทศทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปซึ่งโดยปกติเป็นช่วงฤดูฝนของภาคแต่กลับมีฝนตกน้อยกว่าปกติค่อนข้างมาก มีเพียงภาคใต้ตอนบนเท่านั้นที่มีฝนตกมากกว่าปกติเป็นบริเวณกว้าง ทั้งนี้ปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดฤดูแล้งน้อยกว่าปกติประมาณ 66 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าประมาณ 24% และเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนปี 2562 (พฤษภาคม-ตุลาคม 2562) พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังคงมีฝนตกน้อยต่อเนื่อง มีเพียงบางพื้นที่ของภาคใต้ตอนล่างและบางพื้นที่ทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้นที่มีฝนตกมากกว่าปกติเป็นบริเวณกว้าง โดยปริมาณฝนเฉลี่ย
ตลอดฤดูฝนน้อยกว่าปกติประมาณ 151 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าประมาณ 13% ต่อมาเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งปี 2562/2563 (พฤศจิกายน 2562-เมษายน 2563) สถานการณ์ฝนยังคงตกน้อยต่อเนื่องในเกือบทุกพื้นที่ของประเทศ มีเพียงบางพื้นที่ของภาคตะวันออก ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้นที่มีฝนตกมากกว่าปกติเป็นหย่อมเล็ก ๆ และจะเห็นได้ว่าภาคใต้มีฝนตกน้อยกว่าปกติค่อนข้างมากทั้งภาค แม้จะอยู่ในช่วงฤดูฝนของภาค ทั้งนี้ปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดฤดูน้อยกว่าปกติประมาณ 106 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าประมาณ 38% ซึ่งสถานการณ์ฝนตกน้อยต่อเนื่องยาวนานในครั้งนี้ ส่งผลทำให้เกิดภัยแล้งในหลายพื้นที่