สัดส่วนน้ำไหลลงเขื่อนรวมทั้งปีต่อความจุของเขื่อนขนาดใหญ่จำนวน 35 แห่ง คำนวณจากค่าเฉลี่ย 10 ปี (ปี 2554-2563) แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 น้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่า 0.5 เท่าของความจุเขื่อน หรือปริมาณน้ำไหลลงไม่ถึงครึ่งของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 3 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนศรีนครินทร์ (0.26) เขื่อนภูมิพล (0.36) เขื่อนลำนางรอง (0.43)

กลุ่มที่ 2 น้ำไหลลงเขื่อนอยู่ระหว่าง 0.5 ถึง 1 เท่าของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 20 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนรัชชประภา (0.52) เขื่อนสิริกิติ์ (0.60) เขื่อนวชิราลงกรณ (0.61) เขื่อนบางพระ (0.61) เขื่อนแม่กวง (0.65) เขื่อนคลองสียัด (0.69) เขื่อนทับเสลา (0.70) เขื่อนมูลบน (0.71) เขื่อนลำแซะ (0.77) เขื่อนลำตะคอง (0.78) เขื่อนน้ำอูน (0.78)

เขื่อนแม่งัด (0.83) เขื่อนน้ำพุง (0.83) เขื่อนลำปาว (0.86) เขื่อนห้วยหลวง (0.87) เขื่อนกระเสียว (0.88) เขื่อนสิรินธร (0.89) เขื่อนประแสร์ (0.94) เขื่อนอุบลรัตน์ (0.95) เขื่อนจุฬาภรณ์ (0.98)

กลุ่มที่ 3 น้ำไหลลงเขื่อนอยู่ระหว่าง 1-2 เท่าของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 10 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนลำพระเพลิง (1.06) เขื่อนนฤบดินทรจินดา (1.08) เขื่อนปราณบุรี (1.10) เขื่อนบางลาง (1.18) เขื่อนแก่งกระจาน (1.28) เขื่อนกิ่วคอหมา (1.29) เขื่อนแม่มอก (1.30) เขื่อนหนองปลาไหล (1.40) เขื่อนขุนด่านปราการชล (1.42) เขื่อนแควน้อย (1.45)

กลุ่มที่ 4 น้ำไหลลงเขื่อนเกิน 2 เท่าขึ้นไป มีอยู่ 2 เขื่อน คือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (2.16) เขื่อนกิ่วลม (5.72)

แต่หากพิจารณาเฉพาะข้อมูลในปี 2563 จะพบว่าปีนี้มีเขื่อนที่ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนไม่ถึงครึ่งของความจุเขื่อนอยู่ 10 แห่ง ได้แก่ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนภูมิพล เขื่อนรัชชประปา เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนคลองสียัด เขื่อนน้ำอูน เขื่อนแม่งัด เขื่อนลำปาว และเขื่อนแม่มอก ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วที่มีเขื่อนที่น้ำไหลลงไม่ถึงครึ่งของความจุเขื่อน อยู่ถึง 20 แห่ง และเมื่อเทียบกับข้อมูลย้อนหลังในรอบ 10 ปี พบว่า ปี 2563 เขื่อนวชิราลงกรณ มีสัดส่วนปริมาณน้ำไหลลงต่อความจุเขื่อนที่น้อยที่สุด ส่วนเขื่อนบางพระและเขื่อนลำพระเพลิงมีสัดส่วนปริมาณน้ำไหลลงต่อความจุเขื่อนมากที่สุด