การกระจายตัวของฝนปี 2563
และความผิดปกติของฝนเมื่อเทียบกับค่าปกติ

ปี 2563 ประเทศไทยมีปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศประมาณ 1,400 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 63 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าปกติประมาณ 4% พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศมีฝนตกน้อยกว่าปกติ โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติเกือบทุกพื้นที่ของภาค ครอบคลุมพื้นที่ไปถึงภาคกลางตอนบนรวมถึงบางพื้นที่ทางด้านตะวันตกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็มีฝนตกน้อยกว่าปกติเป็นบริเวณกว้างด้วยเช่นกัน

สำหรับภาคตะวันออกมีฝนตกน้อยทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค ส่วนภาคใต้มีฝนตกน้อยกว่าปกติทางตอนบนของภาค นอกจากนี้พื้นที่ติดทะเลรอบอ่าวตัว ก บริเวณจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็มีฝนตกน้อยกว่าปกติด้วยเช่นกัน สำหรับบริเวณที่มีฝนที่ตกมากกว่าปกติค่อนข้างมาก ได้แก่ บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีฝนตกกระจายตัวครอบลุมพื้นที่ในหลายจังหวัดเป็นบริเวณกว้าง เช่น จังหวัด

นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ขอนแก่น หนองคาย อุดรธานี โดยเฉพาะบริเวณเขาใหญ่รอยต่อของจังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรีที่มีฝนตกมากกว่าบริเวณอื่นค่อนข้างมาก ส่วนภาคตะวันออกมีฝนตกมากกว่าปกติบริเวณจังหวัดชลบุรีและระยอง ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ทางด้านตะวันออกของภาคที่มีปริมาณฝนที่ตกมากกว่าปกติสูงกว่าจังหวัดที่อยู่ทางด้านตะวันตกของภาค

หมายเหตุ : ประมาณค่าฝนด้วยวิธี Inverse Distance Weighting (IDW) โดยใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา


เมื่อวิเคราะห์ปริมาณฝนเป็นรายภาค พบว่ามีฝนตกต่ำกว่าปกติในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติมากที่สุดถึง 17% รองลงมาคือภาคกลางที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติ 8% โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติเกือบทุกพื้นที่ของภาคครอบคลุมลงมาถึงพื้นที่ภาคกลางตอนบน ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝนตกน้อยกว่าปกติเพียง 2% แต่จากแผนที่ฝนจะเห็นได้ว่าบริเวณที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติครอบคลุมเป็นบริเวณ

กว้างมากทางด้านตะวันออกของภาค ส่วนบริเวณที่ฝนตกมากกว่าปกติค่อนข้างมากเป็นเพียงบริเวณแคบ ๆ สำหรับภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนตกมากกว่าปกติ โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกมากกว่าปกติมากที่สุด 10% โดยเฉพาะบริเวณสามจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ที่มีฝนตกหนักหลายครั้ง และเกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ รองลงมาคือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ที่มีฝนตกมากกว่าปกติเพียงเล็กน้อยแค่ 2% และ 1% ตามลำดับ และหากวิเคราะห์ปริมาณฝนเป็นรายจังหวัดจะ

พบว่ามีจังหวัดที่มีฝนตกมากกว่าปกติ 28 จังหวัด โดยจังหวัดนครนายกมีฝนตกมากกว่าปกติมากที่สุด 32.77% รองลงมาคือจังหวัดยะลาและปัตตานี ที่มีฝนตกมากกว่าปกติ 31.51% และ 29.44% ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติ มีทั้งหมด 49 จังหวัด โดยจังหวัดพิจิตร มีฝนตกน้อยกว่าปกติมากที่สุด 33.45% รองลงมาคือจังหวัดกำแพงเพชรและนครพนม ที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติ 33.16% และ 27.54% ตามลำดับ

หมายเหตุ : ประมาณค่าฝนด้วยวิธี Inverse Distance Weighting (IDW) โดยใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา

ปี 2563 ประเทศไทยมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติ 4%
ภาค
ฝนปกติ
ฝนปี 2563
ปริมาณฝนที่ต่างจากปกติ
มิลลิเมตร
เปอร์เซ็นต์
 ภาคเหนือ
1,232
1,019
-213 
-17
 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
1,384
1,352
-32
-2
 ภาคกลาง
1,218
1,122
-96
-8
 ภาคตะวันออก
1,848
1,874
+30
+2
 ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
1,972
2,160
+189
+10
 ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
2,535
2,547
+14
+1
 ทั้งประเทศ
1,467
1,400
-63
-4


หมายเหตุ : ประมาณค่าฝนด้วยวิธี Inverse Distance Weighting (IDW) โดยใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา


รหัส จังหวัด ต่างจากปกติ (%) รหัส จังหวัด ต่างจากปกติ (%)
1 กรุงเทพมหานคร -4.01 40 ลำพูน -8.70
2 สมุทรปราการ -2.57 41 ลำปาง -12.06
3 นนทบุรี 3.38 42 อุตรดิตถ์ -10.41
4 ปทุมธานี 0.62 43 แพร่ 1.96
5 พระนครศรีอยุธยา -0.19 44 น่าน -12.85
6 อ่างทอง -8.64 45 พะเยา -21.99
7 ลพบุรี -9.20 46 เชียงราย -22.66
8 สิงห์บุรี -17.38 47 แม่ฮ่องสอน -24.77
9 ชัยนาท -13.72 48 นครสวรรค์ -23.97
10 สระบุรี 11.30 49 อุทัยธานี -15.07
11 ชลบุรี 6.76 50 กำแพงเพชร -33.16
12 ระยอง 18.39 51 ตาก -20.32
13 จันทบุรี -4.51 52 สุโขทัย -23.30
14 ตราด -6.38 53 พิษณุโลก -18.46
15 ฉะเชิงเทรา -7.20 54 พิจิตร -33.45
16 ปราจีนบุรี 7.83 55 เพชรบูรณ์ -8.85
17 นครนายก 32.77 56 ราชบุรี 2.89
18 สระแก้ว -1.48 57 กาญจนบุรี -7.00
19 นครราชสีมา 20.59 58 สุพรรณบุรี -7.64
20 บุรีรัมย์ 7.26 59 นครปฐม 8.43
21 สุรินทร์ -7.60 60 สมุทรสาคร -6.48
22 ศรีสะเกษ -2.53 61 สมุทรสงคราม -11.54
23 อุบลราชธานี -7.75 62 เพชรบุรี 5.80
24 ยโสธร -10.34 63 ประจวบคีรีขันธ์ -0.28
25 ชัยภูมิ -0.11 64 นครศรีธรรมราช 16.65
26 อำนาจเจริญ -10.52 65 กระบี่ -0.32
27 บึงกาฬ -4.17 66 พังงา 5.01
28 หนองบัวลำภู 0.54 67 ภูเก็ต 16.66
29 ขอนแก่น 1.57 68 สุราษฎร์ธานี 2.51
30 อุดรธานี 8.50 69 ระนอง -15.26
31 เลย -6.47 70 ชุมพร -8.35
32 หนองคาย 20.31 71 สงขลา 8.49
33 มหาสารคาม -2.80 72 สตูล 3.07
34 ร้อยเอ็ด -8.90 73 ตรัง 7.45
35 กาฬสินธุ์ -13.34 74 พัทลุง 10.57
36 สกลนคร -11.18 75 ปัตตานี 29.44
37 นครพนม -27.54 76 ยะลา 31.51
38 มุกดาหาร -19.96 77 นราธิวาส 22.87
39 เชียงใหม่ -12.77


เมื่อเปรียบเทียบปริมาณฝนของปี 2563 กับปริมาณฝนปีอื่นย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่า ปี 2563 มีปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศน้อยเป็นอันดับที่ 4 รองจากปี 2562 2558 และ 2557 ซึ่งเมื่อปี 2557 และ 2558 เป็นลักษณะของ

การเกิดภัยแล้งต่อเนื่อง 2 ปี และในครั้งนี้ได้เกิดภัยแล้งต่อเนื่องขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจากภาพแผนที่ฝนจะเห็นได้ชัดว่าบริเวณตอนบนของประเทศมีฝนค่อนข้างน้อยมาตั้งแต่ปี 2561 ต่อเนื่องมาถึงปี 2562 และ 2563 ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะตัวเลขปริมาณฝน

เฉลี่ยทั้งประเทศจะพบว่าปี 2563 มีฝนตกค่อนข้างมาก หากเทียบกับปีที่เกิดภัยแล้งปีอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นปี 2557 2558 หรือ 2562 เหตุเนื่องจากในปี 2563 บริเวณภาคใต้มีฝนตกมากกว่าปีแล้งอื่น ๆ ค่อนข้างมาก


หมายเหตุ : ประมาณค่าฝนด้วยวิธี Inverse Distance Weighting (IDW) โดยใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา