สัดส่วนน้ำไหลเข้ารวมทั้งปีต่อน้ำระบายรวมทั้งปี

ปี 2566 มีน้ำไหลลงเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 35 แห่งทั่วประเทศ 40,980 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีการระบายออกไป 38,193 ล้านลูกบาศก์เมตร หากเปรียบปริมาณน้ำไหลเข้ามากกว่าน้ำระบายคือการได้กำไร และปริมาณน้ำระบายมากกว่าน้ำไหลเข้าคือการ

ขาดทุนเท่ากับว่า ปี 2566 ได้กำไร 7% หรือกักเก็บน้ำไว้ได้เพิ่มจากปี 2565 ประมาณ 2,787 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากวิเคราะห์เป็นรายภาคจะเห็นว่าปีนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ ได้กำไร ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกขาดทุน

โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้กำไรมากที่สุด 23% รองลงมาคือภาคกลางและภาคใต้ที่ได้กำไร 16% และ 14% ตามลำดับ ส่วนภาคตะวันออกขาดทุนถึง 25% ภาคเหนือขาดทุน 12%


                                                                                                                         หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร


จากสถิติย้อนหลังในรอบ 10 ปี (2557-2566) แสดงให้เห็นว่าปีที่มีน้ำไหลลงเขื่อนรวมทั้งปีมากกว่าน้ำระบายรวมทั้งปี มีทั้งหมด 7 ปี ได้แก่ ปี 2559 2560 2561 2563 2564 2565 และปี 2566 ส่วนปีที่มีน้ำไหลลงเขื่อนรวมทั้งปีน้อยกว่าน้ำระบายรวมทั้งปี มีทั้งหมด 4 ปี ได้แก่ ปี 2557

2558 และ 2562 หากแจกแจงเป็นรายภาค พบว่าเขื่อนในภาคเหนือมีน้ำไหลเข้ามากกว่าน้ำระบายอยู่ 5 ปี คือ ปี 2559 2560 2563 2564 และ 2565 ส่วนปีที่เหลือมีน้ำไหลลงเขื่อนรวมทั้งปีน้อยกว่าน้ำระบายรวมทั้งปี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีน้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่าน้ำระบายในปี 2561

เพียงปีเดียว ภาคกลางมีเพียงปี 2557 2562 2563 และ 2565 ที่มีน้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่าน้ำระบาย สำหรับภาคตะวันออกมีปี 2562 และ 2566 ที่น้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่าน้ำระบาย ส่วนภาคใต้มีน้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่าน้ำระบายเพียง 3 ปี ได้แก่ ปี 2558 2562 และ 2565


ทั้งประเทศ



ภาคเหนือ



ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ



ภาคกลาง



ภาคตะวันออก



ภาคใต้


ทั้งนี้ในปี 2566 มีเขื่อนที่ระบายน้ำทั้งปีมากกว่าน้ำไหลเข้าทั้งปี อยู่ถึง 18 เขื่อนจากทั้งหมด 35 เขื่อน ประกอบด้วยเขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือ 4 เขื่อนได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนกิ่วลม เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนลำนางรอง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแซะ เขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง ซึ่งจะเห็นได้ว่าเขื่อน 4 เขื่อนหลังซึ่งตั้งอยู่ใน

จังหวัดนครราชสีมา มีการระบายน้ำมากกว่าน้ำไหลเข้าทุกเขื่อน ภาคกลาง 3 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนกระเสียว เขื่อนทับเสลา เขื่อนศรีนครินทร์ ภาคตะวันออก 4 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนคลองสียัด เขื่อนบางพระ เขื่อนหนองปลาไหล ภาคใต้ 2 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนปราณบุรี โดยเฉพาะเขื่อนบางพระ เขื่อนหนองปลาไหล และเขื่อนลำตะคอง ที่ปีนี้

ขาดทุนมากที่สุดเมื่อเทียบกับข้อมูลย้อนหลังในรอบ 10 ปี ส่วนเขื่อนที่เหลืออีก 17 เขื่อนมีน้ำไหลเข้าสะสมทั้งปีมากกว่าน้ำที่ระบายทั้งปี หรือเป็นเขื่อนที่กักเก็บน้ำไว้ได้เพิ่มขึ้นจากปี 2565 นั่นเอง โดยเฉพาะเขื่อนวชิราลงกรณที่ปีนี้ได้กำไรถึง 2,105.63 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากปี 2564 หากเทียบกับข้อมูลย้อนหลังในรอบ 10 ปี

สัดส่วนน้ำไหลเข้ารวมทั้งปีต่อน้ำระบายรวมทั้งปีของแต่ละเขื่อน (หน่วย:ล้านลูกบาศก์เมตร)
หมายเหตุ : ข้อมูลจากกรมชลประทาน


ส่วนต่างปริมาณน้ำไหลเข้าทั้งปีกับปริมาณน้ำระบายทั้งปี (หน่วย:ล้านลูกบาศก์เมตร)