ปริมาณฝนรายปี - ทั้งประเทศ
เปรียบเทียบข้อมูลสถิติฝนรายปีย้อนหลังในรอบ 40 ปี

ปี 2566 ประเทศไทยมีฝนตกประมาณ 1,408 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติประมาณ 6% และน้อยกว่าปี 2565 ถึง 440 มิลลิเมตร หรือประมาณ 24% ทั้งนี้หากเปรียบเทียบกับข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 40 ปี (2527-2566) มีปีที่ฝนตกมากกว่าปกติอยู่

ทั้งสิ้น 8 ปี ได้แก่ ปี 2537 2539 2542 2543 2554 2560 2564 และ ปี 2565 ส่วนปีที่ฝนตกอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีทั้งหมด 14 ปี ได้แก่ ปี 2528 2531 2533 2538 2544 2545 2549 2550 2551 2553 2555 2556 2559 และ 2561 ส่วนปีที่ฝน

ตกน้อยกว่าปกติ มีทั้งหมด 18 ปี ได้แก่ ปี 2527 2529 2530 2532 2534 2535 2536 2540 2541 2546 2547 2548 2552 2557 2558 2562 2563 และปี 2566



หมายเหตุ : วิเคราะห์ข้อมูลปริมาณฝนรายปีเฉลี่ยทั่งประเทศย้อนหลัง 40 ปี โดยเทียบกับค่าปกติ (ค่าเฉลี่ยฝน 30 ปี ในช่วงปี 2534-2563) ซึ่งมีการประมาณค่าปริมาณฝนด้วยวิธี Inverse Distance Weighting (IDW) โดยใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา


นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบเทียบข้อมูลฝนในช่วง 40 ปี โดยแบ่งเป็นช่วงครึ่งแรกและช่วงครึ่งหลัง จะเห็นได้ว่าในช่วงครึ่งหลังฝนของประเทศไทยมีความแปรปรวนค่อนข้างสูง โดยในช่วงปี 2547-2548 ฝนตกน้อยและเกิดภัยแล้งรุนแรงบริเวณภาคตะวันออกของประเทศไทย ต่อมาในช่วงปี 2552 - 2553 เกิดฝนตกน้อยอีกครั้ง ส่งผลทำให้เกิดภัยแล้งรุนแรงในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งตรงกันข้ามกับปีต่อมาที่มีฝนตกมากกว่าปกติค่อนข้างมาก ส่งผลทำให้เกิดมหาอุทกภัยในปี 2554 น้ำท่วมในทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งปีนี้เป็นปีที่โลกเกิดปรากฎการณ์ลานิญา ที่อยู่ในช่วงกำลังปานกลางจนถึงกำลังแรง ทั้งนี้ปรากฎการณ์ลานิญามักจะส่งอิทธิพลทำให้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นอีก 2 ปี ได้เกิดฝนตกน้อยผิดปกติต่อเนื่องในปี 2557-2558 ส่งผลทำให้เกิดภัยแล้งรุนแรงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะปี 2558 ที่มีฝนตกน้อยที่สุด

เป็นประวัติการณ์ โดยน้อยกว่าปกติถึง 17% ซึ่งปีนี้ได้เกิดปรากฎการณ์เอลนิโนกำลังแรงมาก (Very Strong Elnino/Super Elnino) ซึ่งปรากฎการณ์เอลนิโนมักจะส่งอิทธิพลทำให้ฝนตกน้อยลง แต่หลังจากนั้นอีกเพียงปีเดียวกลับเกิดฝนตกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ขึ้นอีกครั้งในปี 2560 ปริมาณฝนใกล้เคียงกับปี 2554 แต่ต่อมาในปี 2561 ปริมาณฝนกลับลดลงอย่างมาก และลดลงต่อเนื่องจนถึงปี 2562 ที่ฝนตกน้อยที่สุดทำลายสถิติปี 2558 โดยปี 2562 มีฝนตกน้อยกว่าปกติถึง 19% ซึ่งปีนี้เป็นปีที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโนกำลังอ่อน (Weak Elnino) โดยสภาวะฝนตกน้อยยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงกลางปี 2563 ที่ถึงแม้ปริมาณฝนในภาพรวมทั้งประเทศจะใกล้เคียงปกติ แต่พื้นที่ตอนบนของประเทศฝนตกน้อยมาก หลังจากผ่านสภาวะฝนตกค่อนข้างน้อยต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 จนถึง 2563 เมื่อเข้าสู่ปี 2564 จนถึงปี 2565 ฝนกลับตกมากกว่าปกติ ซึ่ง

ช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดปรากฎการณ์ลานิญากำลังอ่อนถึงกำลังปานกลาง ซึ่งมักจะส่งผลทำให้เกิดฝนตกเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2565 มีฝนตกมากที่สุดทำลายสถิติของปี 2554 และปี 2560 โดยปรากฎการณ์ลานิญาได้เกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมีนาคม 2566 หลังจากนั้นก็ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2566 แล้วเปลี่ยนเป็นปรากฎการณ์เอลนีโญตั้งแต่เดือนมิถุนายนและเพิ่มระดับเป็นเอลนีโญกำลังแรงตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงสิ้นปี ซึ่งโดยปกติปรากฎการณ์เอลนีโญมักจะส่งผลทำให้ปริมาณฝนลดน้อยลง แต่ในช่วงปลายปี 2566 เป็นช่วงเริ่มต้นของปรากฎการณ์ทำให้ยังไม่เห็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนมากนัก ดังจะเห็นได้จากช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2566 ที่ยังคงมีฝนตกมากเป็นปกติ ซึ่งต่างปี 2558 และปี 2562 ที่ฝนตกน้อยมากอย่างเห็นได้ชัด


ตารางแสดงระดับความแรงของการเกิดปรากฎการณ์เอนิโนและลานิญา
ที่มา : https://ggweather.com/enso/oni.htm


กราฟแสดงการเกิดปรากฎการณ์เอลนิโนและลานิญาและปริมาณฝนของประเทศไทย ช่วงปี 2547-2566
ที่มา : ข้อมูล ONI จาก https://www.cpc.ncep.noaa.gov/data/indices/oni.ascii.txt / ข้อมูลฝนจากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เห็นได้ชัดว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับฝนของประเทศไทยในช่วง 20 ปีหลัง ทั้งในเรื่องของปริมาณฝน ที่ช่วง 20 ปีแรก ปริมาณฝนที่ตกในแต่

ละปีมักจะมากกว่าปกติไม่เกิน 10% แต่ในช่วง 20 ปีหลัง มีฝนตกมากกว่าปกติเกิน 20% เกิดขึ้นถึง 3 ปี คือ ปี 2554 2560 รวมถึงปี 2565 นอกจากนี้ฝนที่ตกน้อยกว่า

ปกติที่สุดที่เกิดขึ้นในปี 2562 ก็อยู่ในช่วง 20 ปีหลังด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ฝนที่ตกน้อยกว่าปกติและฝนที่ตกมากกว่าปกติ มีการเกิดสลับกันถี่มากขึ้นด้วย




ปริมาณฝนรายปี - รายภาค
เปรียบเทียบข้อมูลสถิติฝนรายปีย้อนหลังในรอบ 40 ปี

ปี 2566 แต่ละภาคของประเทศไทยมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์ปกติและน้อยกว่าปกติ โดยไม่มีภาคใดเลยที่มีฝนตกมากกว่าปกติ และเมื่อเปรียบเทียบปริมาณฝนรายปีย้อนหลังของแต่ละภาคในรอบ 40 ปี (2527 ถึง 2566) พบว่า

ภาคเหนือ มีฝนตก 1,205 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 3% อยู่ในเกณฑ์ฝนปกติ ซึ่งต่างจากปีที่แล้วค่อนข้างมาก ที่มีฝนตกมากกว่าปกติถึง 25%

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตก 1,364 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 2% อยู่ในเกณฑ์ฝนปกติ แต่ลดลงจากปีที่แล้วค่อนข้างมาก ที่มีฝนตกมากกว่าปกติถึง 27%

ภาคกลาง มีฝนตก 983 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ยถึง 20% อยู่ในเกณฑ์ฝนตกน้อยกว่าปกติค่อนข้างมาก โดยน้อยเป็นอันดับที่ 3 รองจากปี 2562 และ 2547 หากเทียบกับข้อมูลย้อนหลังในรอบ 40 ปี และเป็นปริมาณฝนที่ต่างจากปีที่แล้วค่อนข้างมาก ที่มีฝนตกมากกว่าปกติถึง 24%

ภาคตะวันออก มีฝนตก 1,527 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 17% อยู่ในเกณฑ์ฝนตกน้อยกว่าปกติค่อนข้างมาก โดยน้อยเป็นอันดับที่ 2 รองจากปี 2535 หากเทียบกับข้อมูลย้อนหลังในรอบ 40 ปี และเป็นปริมาณฝนที่ต่างจากปีที่แล้วค่อนข้างมาก ที่มีฝนตกมากกว่าปกติถึง 20%

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตก 2,117 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 2% อยู่ในเกณฑ์ฝนปกติ แต่ลดลงจากปีที่แล้วค่อนข้างมาก ที่มีฝนตกมากกว่าปกติถึง 19%

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตก 2,371 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 11% อยู่ในเกณฑ์ฝนตกค่อนข้างน้อย ซึ่งปริมาณฝนลดลงจากปีที่แล้วค่อนข้างมาก ที่มีฝนตกมากกว่าปกติถึง 13%































หมายเหตุ : ประมาณค่าฝนด้วยวิธี Inverse Distance Weighting (IDW) โดยใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา และคำนวณค่าฝนปกติโดยใช้ข้อมูลฝนในช่วงปี 2534-2563)