ปี 2566 ประเทศไทยมีปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศ 1,408 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 95 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าปกติประมาณ
6% พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศมีฝนตกน้อยกว่าปกติ แต่มีฝนตกมากกว่าปกติเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆ ในทุกภาค โดยเฉพาะภาคใต้
ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปที่มีฝนตกมากกว่าปกติค่อนข้างมากเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง
ปี 2566 เป็นปีที่สถานการณ์ฝนค่อนข้างตรงกันข้ามกับปี 2565 โดยมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่อนข้างมาก ทุกภาคของประเทศมีฝนตกน้อยกว่าปกติต่างจากปี 2565 ที่ทุกภาคมีฝนตกมากกว่าปกติ ซึ่งปีนี้จังหวัดบึงกาฬมีฝนตกมากกว่าปกติที่สุด 64.98% รองลงมาคือจังหวัดสุราษฎร์ธานีและนราธิวาสที่มีปริมาณฝนมากกว่าปกติ 44.76% และ 43.96% ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติที่สุด 34.71% รองลงมาคือจังหวัดเพชรบุรีและปทุมธานีที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติ 34.12% และ 31.99% ตามลำดับ โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมแยกเป็นรายภาคดังนี้
ภาคเหนือ มีฝนตกเฉลี่ยทั้งภาค 1,205 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 3% โดยเฉพาะทางด้านตะวันออกของภาคที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติในหลายพื้นที่ ส่วนทางด้านตะวันตกของภาคมีฝนตกมากกว่าปกติเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง โดยจังหวัดเชียงใหม่มีฝนตกมากกว่าปกติที่สุด 10.70% และจังหวัดพิจิตรมีฝนตกน้อยกว่าปกติที่สุด 19.23%
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกเฉลี่ยทั้งภาค 1,364 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 2% พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคมีฝนตกน้อยกว่า
ปกติ มีเพียงบางพื้นที่ทางด้านตะวันออกของภาคและบริเวณจังหวัดนครราชสีมาที่มีฝนตกมากกว่าปกติ โดยจังหวัดบึงกาฬมีฝนตกมากกว่าปกติที่สุด 64.98% และเป็นจังหวัดที่มีฝนตกมากกว่าปกติสูงที่สุดของประเทศด้วย ส่วนจังหวัดอุดรธานีมีฝนตกน้อยกว่าปกติที่สุดของภาค ปริมาณฝนน้อยกว่าปกติ 13.13%
ภาคกลาง มีฝนตกเฉลี่ยทั้งภาค 983 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 20% ซึ่งภาคนี้มีฝนตกน้อยกว่าปกติในทุกจังหวัด แม้บางพื้นที่ของจังหวัดกาญจบุรีและสุพรรณบุรีจะมีฝนตกมากกว่าปกติเกิดขึ้นก็ตามแต่โดยภาพรวมของจังหวัดยังคงมีฝนตกน้อยกว่าปกติ ทั้งนี้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีฝนตกน้อยกว่าปกติที่สุด 34.71% และยังเป็นจังหวัดที่มีฝนตกน้อยกว่าปกติที่สุดในประเทศอีกด้วย
ภาคตะวันออก มีฝนตกเฉลี่ยทั้งภาค 1,527 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 17% พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคมีฝนตกน้อยกว่าปกติ ยกเว้นบริเวณจังหวัดนครนายกที่มีฝนตกมากกว่าปกติ และเป็นจังหวัดที่มีฝนตกมากกว่าปกติที่สุดของภาค ปริมาณฝนมากกว่าปกติ 13.49% ส่วนจังหวัดตราดมีฝนตกน้อยกว่าปกติที่สุด 31.54%
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกเฉลี่ยทั้งภาค 2,117 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 2% เกือบทุกพื้นที่ทางตอนบนของภาคตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปถึงพื้นที่บางส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีฝนตกน้อยกว่าปกติ ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนตกมากกว่าปกติ โดยจังหวัดนราธิวาสทีฝนตกมากกว่าปกติที่สุด 44.76% รวมทั้งมากเป็นอันดับที่สองของประเทศรองจากจังหวัดบึงกาฬ ส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีฝนตกน้อยกว่าปกติที่สุด 28.82%
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกเฉลี่ยทั้งภาค 2,371 มิลลิเมตร น้อยกว่าปกติ 11% พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคมีฝนตกน้อยกว่าปกติ มีเพียงบางพื้นที่ของจังหวัดพังงา ตรังและสตูลที่มีฝนตกมากกว่าปกติ โดยจังหวัดสตูลมีฝนตกมากกว่าปกติที่สุด 21.32% ส่วนจังหวัดกระบี่มีฝนตกน้อยกว่าปกติที่สุด 29.80%
หมายเหตุ : ประมาณค่าฝนด้วยวิธี Inverse Distance Weighting (IDW) โดยใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา
ปี 2566 ประเทศไทยมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติ 6%
ภาค | ปริมาณฝน ปี 2566 | ปริมาณฝนที่ต่างจากปกติ | |
มิลลิเมตร | เปอร์เซ็นต์ | ||
เหนือ | 1,205 | -43 | -3 |
ตะวันออกเฉียงเหนือ | 1,364 | -29 | -2 |
กลาง | 983 | -243 | -20 |
ตะวันออก | 1,527 | -303 | -17 |
ใต้ฝั่งตะวันออก | 2,117 | -46 | -2 |
ใต้ฝั่งตะวันตก | 2,371 | -306 | -11 |
ทั้งประเทศ | 1,408 | -95 | -6 |
รหัสจังหวัด | ชื่อจังหวัด | ฝนตกต่างจากปกติ (%) | รหัสจังหวัด | ชื่อจังหวัด | ฝนตกต่างจากปกติ (%) |
38 | บึงกาฬ | 64.98 | 27 | สระแก้ว | - 11.96 |
96 | นราธิวาส | 44.76 | 73 | นครปฐม | - 12.47 |
94 | ปัตตานี | 43.96 | 31 | บุรีรัมย์ | - 12.92 |
95 | ยะลา | 38.31 | 62 | กำแพงเพชร | - 13.00 |
90 | สงขลา | 23.69 | 39 | หนองบัวลำภู | - 13.14 |
91 | สตูล | 21.32 | 41 | อุดรธานี | - 13.31 |
93 | พัทลุง | 16.52 | 71 | กาญจนบุรี | - 13.35 |
26 | นครนายก | 13.49 | 65 | พิษณุโลก | - 13.42 |
50 | เชียงใหม่ | 10.70 | 70 | ราชบุรี | - 13.49 |
52 | ลำปาง | 6.70 | 24 | ฉะเชิงเทรา | - 14.77 |
43 | หนองคาย | 6.54 | 16 | ลพบุรี | - 14.98 |
51 | ลำพูน | 6.16 | 75 | สมุทรสงคราม | - 15.43 |
47 | สกลนคร | 5.74 | 67 | เพชรบูรณ์ | - 15.58 |
37 | อำนาจเจริญ | 4.50 | 57 | เชียงราย | - 15.90 |
34 | อุบลราชธานี | 3.48 | 21 | ระยอง | - 16.47 |
49 | มุกดาหาร | 3.16 | 83 | ภูเก็ต | - 16.87 |
58 | แม่ฮ่องสอน | 2.64 | 74 | สมุทรสาคร | - 19.19 |
63 | ตาก | 1.94 | 66 | พิจิตร | - 19.23 |
92 | ตรัง | 1.67 | 20 | ชลบุรี | - 19.95 |
54 | แพร่ | 1.00 | 86 | ชุมพร | - 19.99 |
46 | กาฬสินธุ์ | 0.22 | 11 | สมุทรปราการ | - 20.04 |
48 | นครพนม | 0.15 | 85 | ระนอง | - 21.83 |
35 | ยโสธร | - 0.68 | 22 | จันทบุรี | - 21.89 |
33 | ศรีสะเกษ | - 1.87 | 61 | อุทัยธานี | - 25.59 |
55 | น่าน | - 2.69 | 12 | นนทบุรี | - 26.64 |
45 | ร้อยเอ็ด | - 2.94 | 60 | นครสวรรค์ | - 27.43 |
56 | พะเยา | - 3.55 | 10 | กรุงเทพมหานคร | - 27.68 |
80 | นครศรีธรรมราช | - 3.95 | 14 | พระนครศรีอยุธยา | - 28.23 |
25 | ปราจีนบุรี | - 4.17 | 17 | สิงห์บุรี | - 28.68 |
44 | มหาสารคาม | - 4.25 | 84 | สุราษฎร์ธานี | - 28.82 |
40 | ขอนแก่น | - 5.38 | 15 | อ่างทอง | - 29.30 |
30 | นครราชสีมา | - 5.83 | 81 | กระบี่ | - 29.80 |
19 | สระบุรี | - 6.27 | 72 | สุพรรณบุรี | - 30.46 |
64 | สุโขทัย | - 7.12 | 23 | ตราด | - 31.54 |
32 | สุรินทร์ | - 10.22 | 18 | ชัยนาท | - 31.65 |
36 | ชัยภูมิ | - 10.43 | 13 | ปทุมธานี | - 31.99 |
42 | เลย | - 11.29 | 76 | เพชรบุรี | - 34.12 |
82 | พังงา | - 11.64 | 77 | ประจวบคีรีขันธ์ | - 34.71 |
53 | อุตรดิตถ์ | - 11.92 |
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณและการกระจายตัวของฝนในปี 2566 กับข้อมูลย้อนหลังในรอบ 20 ปี (2547-2565) จะเห็นได้ว่าถึงแม้ปีนี้จะมีฝนตกน้อยกว่าปกติ แต่ปริมาณฝนยัง
คงมากกว่าช่วงปี 2557-2558 และ 2562-2563 ที่ประเทศไทยเกิดฝนแล้งค่อนข้างรุนแรง ซึ่งในปีนี้มีการกระจุกตัวของกลุ่มฝนตกหนักเกิดขึ้นมากกว่า อีกทั้ง
ภาคเหนือมีการกระจายตัวของฝนค่อนข้างดีกว่าและโดยเฉพาะภาคใต้ที่มีฝนตกมากกว่าค่อนข้างมาก มีเพียงภาคตะวันออกเท่านั้นที่มีฝนตกน้อยกว่า