สัดส่วนน้ำไหลลงเขื่อนรวมทั้งปีต่อความจุของเขื่อนขนาดใหญ่จำนวน 35 แห่ง คำนวณจากค่าเฉลี่ย 10 ปี (ปี 2557-2566) แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 น้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่า 0.5 เท่าของความจุเขื่อน หรือปริมาณน้ำไหลลงไม่ถึงครึ่งของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 4 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนรัชชประภา (0.49) เขื่อนลำนางรอง (0.41) เขื่อนภูมิพล (0.34] เขื่อนศรีนครินทร์ [0.25]

กลุ่มที่ 2 น้ำไหลลงเขื่อนอยู่ระหว่าง 0.5 ถึง 1 เท่าของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 17 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนลำปาง [0.91] เขื่อนกระเสียว [0.89] เขื่อนห้วยหลวง [0.85] เขื่อนสิรินธร [0.85] เขื่อนประแสร์ [0.83] เขื่อนน้ำพุง [0.82] เขื่อนทับเสลา [0.76] เขื่อนน้ำอูน [0.75] เขื่อนแม่งัด [0.72] เขื่อนลำตะคอง [0.70] เขื่อนลำแซะ [0.70]

เขื่อนมูลบน [0.67] เขื่อนบางพระ [0.63] เขื่อนคลองสียัด [0.59] เขื่อนแม่กวงอุดมธารา [0.56] เขื่อนวชิราลงกรณ [0.56] เขื่อนสิริกิติ์ [0.52]

กลุ่มที่ 3 น้ำไหลลงเขื่อนอยู่ระหว่าง 1-2 เท่าของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 12 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนแม่มอก [1.78] เขื่อนหนองปลาไหล [1.42] เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน [1.37] เขื่อนบางลาง [1.36] เขื่อนกิ่วคอหมา [1.33] เขื่อนขุนด่านปราการชล [1.25] เขื่อนแก่งกระจาน [1.24] เขื่อนนฤบดินทรจินดา [1.14] เขื่อนลำพระเพลิง [1.12] เขื่อนจุฬาภรณ์ [1.09] เขื่อนปราณบุรี [1.09] เขื่อนอุบลรัตน์ [1.08]

กลุ่มที่ 4 น้ำไหลลงเขื่อนเกิน 2 เท่าขึ้นไป มีทั้งหมด 2 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนกิ่วลม (4.97) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (2.17)

แต่หากพิจารณาเฉพาะข้อมูลในปี 2566 จะพบว่าปีนี้มีเขื่อนที่ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนไม่ถึงครึ่งของความจุเขื่อนอยู่ถึง 11 แห่ง กระจายตัวอยู่ในทุกภาคของประเทศ ประกอบด้วย ภาคเหนือ 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนลำนางรอง เขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำแซะ ภาคกลาง 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนกระเสียว เขื่อนทับเสลา เขื่อนศรีนครินทร์ ภาคตะวันออก 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนคลองสียัดและเขื่อนบางพระ ภาคใต้เพียงแห่งเดียวคือเขื่อนรัชชประภา ส่วนเขื่อนที่มีน้ำไหลลงเขื่อนมากกว่าความจุเขื่อนเกิน 2 เท่า มีเพียง 2 แห่ง คือ เขื่อนแม่มอก และเขื่อนกิ่วลมซึ่งเป็นเขื่อนที่รับน้ำระบายจากเขื่อนกิ่วคอหมา